6 วิธีดูแลเท้าป้องกันโรค เมื่อต้องเดินลุยน้ำสกปรกในฤดูฝน

เมื่อถึงฤดูฝน เป็นธรรมดาที่ฝนจะตกเกือบทุกวัน หลายครั้งตกตอนเดินทางไปทำงาน หรือช่วงเวลาที่เดินทางกลับบ้านพอดี ต้องเดินลุยน้ำขังฝ่าฝนกันไปแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำที่ขังตามข้างทาง ข้างถนนนั้นไม่สะอาด บ้างก็เป็นน้ำเน่าเสีย ความสกปรกเหล่านี้นี่แหละค่ะที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น

โรคผิวหนัง ที่เกิดจากการย่ำน้ำหรือแช่น้ำที่มีเชื้อโรค ทำให้เท้าเปื่อย มีอาการคันตามซอกนิ้วเท้า หรือบางรายถึงขั้นนิ้วเท้าลอกตามซอกเป็นขุยขาว ๆ หรืออาจเป็นแผลเลยก็ได้

แผลติดเชื้อ หรือบาดทะยัก การเดินลุยน้ำสกปรกตามถนน มีความเสี่ยงที่จะโดนของมีคมทิ่ม ตำ และสำหรับบางรายที่มีแผลที่เท้า ก็มีโอกาสเสี่ยงที่แผลจะติดเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในน้ำได้

โรคฉี่หนู เป็นโรคที่เกิดจากปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู สุนัข และแมว ที่ปนเปื้อนอยู่ตามแหล่งน้ำขัง หากโดนผิวหนังที่เป็นบาดแผล หรือโดนผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน

ดังนั้นเราจึงมี 6 วิธีดูแลเท้าป้องกันโรค เมื่อต้องเดินลุยน้ำขังในฤดูฝนมาฝากกันค่ะ

1.    ไม่ควรแช่เท้าในน้ำขังที่สกปรกนาน ๆ หรือปล่อยให้อับชื้นนานเกินไป

            หากวันไหนที่มีเหตุจำเป็นต้องเดินลุยน้ำขังสกปรก ๆ ในวันฝนตกจนรองเท้าเปียก แอดมินแนะนำว่าควรรีบกลับบ้านเพื่อไปทำความสะอาดเท้า อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

2.    สวมรองเท้าบูตกันน้ำ

            การสวมรองเท้าบูตกันน้ำ นอกจากป้องกันเท้าไม่ให้โดนน้ำแล้ว ยังช่วยป้องกันสิ่งของมีคมที่อยู่ตามถนนได้อีกด้วยค่ะ

3.    เมื่อถึงบ้านให้ทำความสะอาดเท้าทันที

            อย่างที่กล่าวไว้ในข้อแรกว่าไม่ควรปล่อยให้เท้าเปียกน้ำสกปรกเป็นเวลานาน ๆ เพราะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน ฟอกสบู่ ล้างน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า

4.    อย่าลืมทำความสะอาดรองเท้า

            ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าบูตที่สามารถใส่แช่น้ำได้ตลอดทั้งวัน หรือรองเท้าลำลองของ Belldilar ที่สามารถใส่ลุยน้ำได้ แต่ไม่ควรแช่ไว้นาน หรือจะเป็นรองเท้ายี่ห้อต่าง ๆ หลังจากลุยน้ำขังมาแล้ว ก็ควรทำความสะอาดเช่นเดียวกัน โดยการล้างให้ดี แล้วผึ่งให้แห้งก่อนนำกลับใส่อีกครั้ง

5.    ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ

            หากมีแผลที่เกิดตามเท้า หรือผื่นที่ผิวหนัง ให้ไปพบแพทย์ทันที และทายาหรือรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดนะคะ

          เป็นวิธีที่ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ผู้อ่านทุกท่าน แล้วอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ :D